เคยคิดมั๊ย?? ทำยังไงให้ลูกค้าหลงรักสินค้าและบริการของคุณ

รัก เกิดจากความรู้สึกที่ดี ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนกลายเป็น หลงรักเมื่อหลงรักก็อยากจะบอกต่อให้คนอื่นๆ รับรู้ถึงความรู้สึกส่วนนี้

ใช่ครับ!! คุณแค่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดี ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนไม่สามารถเปิดใจไปหลงรักแบรนด์อื่นได้ เรียกได้ว่า ไม่เปิดโอกาสให้ไปสืบค้น ไปเจอ ไปรู้จัก ใครได้อีกเลย

ผมมีวิธีง่ายๆ สั้นๆ อ่านไม่เกิน 8 บรรทัดมาให้อ่านกันครับ

ตอบกลับให้รวดเร็ว แบบสัญญาณ 5G
สมัยนี้แค่คิดว่าอยากกินไก่ทอด อยู่ๆก็มี การนำเสนอ โฆษณาไก่ทอดราคาพิเศษ สั่งตอนนี้รับทันทีส่วนลด 100 บาท
ส่งฟรี!! ทุกรายการ แต่…พอทักไปจะถามข้อมูลเพิ่มเติม กลับไม่มีใครตอบ…

จะดีกว่ามั๊ยครับ…ถ้าเรามีเทคโนโลยี Omni Channel มารองรับการติดต่อในทุกช่องทาง
สร้างความรวดเร็วในการบริการ ปิดการขายในทันที ไก่ทอดเจ้าอื่นมาเสนอทีหลังก็ไม่ทันแล้วครับ

รองรับทุกช่องทาง ที่ลูกค้าเลือกติดต่อเข้ามา
ปัจจุบัน ลูกค้าเป็นผู้ที่เลือกช่องทางการติดต่อ อยากแชท อยากโทร ลูกค้าเลือกเองครับ
บางครั้ง โทรด้วย แชทด้วย หากคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ จะตอบลูกค้ายังไงดีครับ

จะดีกว่ามั๊ยครับ…หากเราสามารถรู้ได้ว่าลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาทั้งโทร ทั้งแชท เค้าคือคนเดียวกัน
และสามารถรวมการติดต่อให้เป็นช่องทางเดียว รวมไปถึงมี Report ที่สามารถนำไปสื่อสารเพื่อเพิ่มยอดขายกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน
เลือกใช้เทคโนโลยีให้ตรงจุด เราจึงจะได้เปรียบทางธุรกิจก่อนคนอื่นครับ

เปลี่ยนการ Complain ให้กลายเป็น Compliment
เจอประสบการณ์ที่แย่ แต่ก็ดันพลิกสถานการณ์ได้ซะงั้น!!!
บางเหตุการณ์แค่คำขอโทษคงไม่เพียงพอ…

ท่านใดที่อ่านมาถึงหัวข้อนี้ คงรับทราบและซาบซึ้งกันเป็นอย่างดี
ว่าการดูแลลูกค้าที่มีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากการซื้อสินค้าหรือการรับบริการก็ตาม
หากเกิดความไม่พอใจเข้าแล้ว เราจะรับมือกันอย่างไร

ก่อนอื่น เราต้องนำความรู้สึกของลูกค้ามาลองย้อนนึก ว่าหากเป็นเรา เราต้องการอะไร
แน่นอนที่สุด ต้องการคนที่รับฟัง…แล้วให้ความช่วยเหลือได้ในทันที ย้ำนะครับว่าในทันที
เคส Complain (ร้องเรียน) เราควรลดการปฎิเสธ หากรู้ว่าความผิดพลาดเกิดจากส่วนไหน
ควรน้อมรับที่จะแก้ไขและสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

จะดีกว่ามั๊ย…ถ้าเราสามารถรู้ประวัติการติดต่อของลูกค้า เพื่อเราจะได้รู้จักลูกค้ามากขึ้น
เช่น เคยติดต่อมากี่ครั้ง ติดต่อที่ช่องทางไหนมากที่สุด สนใจหรือเคยซื้อสินค้าและบริการอะไรบ้าง
ลูกค้าเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีมาหรือไม่ เคยมี Complain (ร้องเรียน) เรื่องอะไร สิ่งเหล่านี้
เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เราดูแลลูกค้าได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็น Compliment (คำชม) ครับ

ลูกค้าไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่ลูกค้าคือพระเจ้า
คงปฎิเสธคำนี้ไม่ได้กันนะครับ ว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยิน “ลูกค้าคือพระเจ้า”
เราอยู่ได้เพราะมีการซื้อ-ขาย ไม่ว่าจะเป็นการขายที่หน้าร้าน หรือการขายในรูปแบบ E-Commerce
หากไม่มีใครรู้จักในสินค้าและบริการของเรา เราจะมีลูกค้าหรือ ยอดขายเพิ่มขึ้นได้อย่างไร?

การทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม คือต้องทำให้ลูกค้าคนเดิมช่วยแนะนำและบอกต่อ
คนเดิม => บอกต่อ => บอกต่อ => บอกต่อ เราจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐาน การสร้างประสบการณ์ที่ดี จนทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำและบอกนะครับ

จะดีกว่ามั๊ยครับ…ถ้าเราใช้บริการผู้ที่มีประสบการณ์การดูแลลูกค้าแบบมืออาชีพ
มาดูแลลูกค้าให้คุณ มีคลังของคำพูดมากมายที่พร้อมจะนำเสนอให้ลูกค้าของคุณ
ในเวลาลูกค้าต้องการความช่วยเหลือก็เหมือนมีผู้ช่วยคอยดูแลและใส่ใจให้อยู่ตลอดเวลา

สรุป
หากการดูแลลูกค้าไม่ใช่การประกอบด้วยแค่สินค้าที่มีคุณภาพเท่านั้น หากแต่ต้องบริการได้รวดเร็วรองรับการติดต่อได้ในทุกช่องทางทั้ง Voice และ Non Voice สิ่งนี้จึงเป็นอีกแกนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในแบรนด์ของคุณ

หากมีเทคโนโลยีที่ดี และการดูแลลูกค้าจากบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ ย่อมจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะดีกว่าการที่แบรนด์จะมาดำเนินการเองทั้งหมด ปัจจุบัน มีบริษัทฯ ที่ดำเนินการด้าน Omni Channel Contact Center Service ที่มีทั้งระบบ, ทีมงานที่ได้รับการอบรมและได้มาตรฐาน เมื่อขยายฐานลูกค้ามากขึ้น มีการซื้อ-ขายในรูปแบบ E-Commerce มากขึ้น Omni Channel จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแบรนด์ครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง